Fasai Blog

[MLCW] รีวิว Neil's Yard remedies สเปรย์แอลกฮอลล์พรีเมียม #CrueltyFree #Vegan

by Fasai - มิถุนายน 06, 2564

สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการรีวิวและการทำคลิปไปนานมว๊าากก

กลับมารอบนี้ มาใน Theme ของ My Little Cruelty-Free World ค่ะ

EP นี้ มารีวิวสเปรย์แอลกฮอลล์ระดับพรีเมียม

จากแบรนด์ Neil's Yard Remedies ค่ะ

เป็นแบรนด์จากอังกฤษ >.<

เหมือนเดิม ใครใคร่ดูคลิป ดูคลิปนะเจ้าคะ คลิกเบาๆที่คลิปด้านล่างโลดไปเล้ยยย

ส่วนใครชอบอ่าน เลื่อนลงไปอีกนิดก็มาอ่านยาวๆไป ยาวนิดนึง ดูคลิปก็ได้

มาดูหน้าดูตาของเจ้าสเปรย์ที่ว่านี่กันก่อน พามาอวดโฉม 2 รุ่นด้วยกัน

คือ Natural Defense Hand Spray กับ Organic Defense Hand Spray

รู้จักหน้ารู้จักตากันแล้ว ใสก็มี

5 เหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้เจ้า Hand Spray แอลกฮอลล์ 2 ตัวนี้ จาก Neil's Yard Remedies ค่ะ

เริ่ม!!!

1. แอลกฮอลล์เข้มข้น 70%

อย่างที่หลายๆคนน่าจะทราบกันว่า แอลกฮอลล์ที่จะฆ่าเชื้อโควิดได้เนี่ยต้อง 70% ขึ้นไป

ซึ่งเจ้าสองตัวนี้ก็เข้าข่าย แล้วก็ยังผ่านการรับรองทางการแพทย์ว่าฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.9%

แอลกฮอลล์ที่ใช้ก็เป็นแบบอย่างดี คุณภาพสูง

2. อ่อนโยนมาก ไม่ระคายเคือง

ไม่กัดมือ ไม่แสบ ไม่แห้ง ในขณะที่ไม่มัน ไม่เหนียว ไม่เหนอะหนะ ใช้ซ้ำได้บ่อย

ไม่รู้สึกระคายเคืองใดๆ รู้สึกนุ่มหน่อยๆด้วย แล้วก็คือพอทิ้งไว้ไม่ถูมือเลยใช่ปะ เค้าก็เป็นน้ำใสๆในอุ้งมือแบบนี้ พอถูทำความสะอาดก็รู้สึกว่า ก็เร็ว ไม่เลอะเทอะ

คือบอกก่อนว่าที่บอกว่าไม่ระคายเคืองเนี่ย คือลองใช้แบบ ฉีดรัวๆ แล้วก็ถูติดๆกันประมาณสิบกว่ารอบอ่ะ มันไม่ระคายเคืองเลยอ่ะ

คือจะใช้ซ้ำได้บ่อยแค่ไหนก็ได้

เท่าที่เราต้องการ คือมีความจำเป็นที่ต้องหยิบนู่นหยิบนี่ แล้วต้องใช้ก็ใช้อีก ซ้ำๆย้ำๆได้เลย

ใสก็เอ๊ะๆ แบบว่าได้เบอร์นี้เลยเหรอ

อ่อนโยนที่ว่า เค้าโฆษณาว่าสามารถใช้ได้กับเด็กแล้วก็สตรีมีครรภ์ก็ได้

3. กลิ่น

กลิ่นนี่เป็นอะไรที่ชอบมาก บอกเลยว่ากลิ่นดีมาก

มีความเป็น Unisex ด้วยใช้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วก็ใช้ไดหลายๆวัยด้วย

กลิ่นเจ้าสองตัวนี้จะคล้ายๆกัน เป็นกลิ่นที่ผสมผสานระหว่างพืชพรรณสมุนไพรหลายตัวที่ค่อนข้างยากที่จะแยกว่าอะไรเป็นอะไร กลิ่นที่โดดที่สุดที่ใสรู้สึกนะ คือคล้ายๆตะไคร้ผสมซินนามอน แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว

กลิ่นให้ความรู้สึกเย็น สบาย ไม่บาดจมูก ไม่ฉุน ไม่ให้ความรู้สึกที่ว่าแก่อะ

ส่วนตัวใสรู้สึกตัว Natural defense hand spray ตัวผอมสูง เนี่ยเค้าจะกลิ่นออกอ่อนกว่าหน่อยนึง ส่วนตัว organic defense hand spray กลิ่นจะเข้มแล้วก็มีความดุดันกว่า

ซึ่งเรื่องกลิ่น สำหรับหลายคนใสว่าเป็นเรื่องใหญ่ เอาให้ชัวร์คือต้องลองค่ะ

4. ขวดสีน้ำเงิน Iconic Blue bottle

ขวดสีน้ำเงินที่ถ้าใครเป็นแฟนของ Neil's Yard Remedies จะเห็นว่าแบรนด์เนี้ยเค้าใช้ขวดสีน้ำเงินแบบเดียวกันไปกับผลิตภัณฑ์ทุกตัวเลย

ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว หรือว่าเป็นแค่สัญลักษณ์ของแบรนด์

แต่ว่าเจ้าตัวขวดน้ำเงินเนี่ย

มีคุณสมบัติช่วยกันรังสียูวี แล้วก็ช่วยดูแลป้องกันของในขวดไม่ให้เสียง่าย

เจ้าขวดเนี้ยในวิดิโอของแบรนด์ pure preservatives คือสารกันเสียที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติอะไรประมาณนั้น

ทำให้ของข้างในไม่เสีย จนเราสามารถใช้ได้ทัน จบปัญหาประเภทที่ว่าซื้อมาไม่ทันไร เสียแล้วอ่ะ

นอกจากนี้นะคะ เจ้าตัวขวดนี้ recycle ได้ 100% ด้วยนะคะ

5. เป็น #CrueltyFree #Vegan #Organic แล้วยังรักษ์โลกมาก

สำหรับใสค่อนข้างสำคัญมากพอสมควรเลยว่าผลิตภัณฑ์ที่ใสใช้เนี่ยจะต้องเป็น Cruelty Free ไม่ทดลองกับสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ใช้ส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ เป็นออร์แกนิคอะไรแบบนี้ ซึ่งแบรนด์นี้มาครบจัดเต็ม มี Cer พร้อมรางวัลรับรองมากมาย แล้วก็รักษ์โลกมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการเลือกใช้กระดาษรีไซเคิลเพื่อลดการทำลายปาก มากมายหลายสิ่งที่ใสปลาบปลื้มที่น่าสนับสนุนมาก

+++

พูดถึงข้อดีกันไปเยอะแล้ว มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง เชื่อไหม ใสใช้เวลาประมาณเกือบ 3 สัปดาห์ ในการพยามควานหาข้อเสียของนาง

แล้วได้อะไรไหม ตอบเลยว่าไม่ได้ หาไม่เจอ

คราวนี้มาดูค่าตัวของนางทั้งสองกันบ้าง

ราคาของเจ้าสองตัวนี้นะคะ สำหรับเจ้า Natural Defense Hand Spray ขนาด 30 ml อยู่ที่ 450 บาท

กับ Organic Defense Hand Spray ขนาด 50 ml อยู่ที่ 650 บาท

ซึ่งก็ค่อนข้างจะแรงกว่าสเปรย์แอลกฮอล์ยื่ห้ออื่นๆ แต่ว่าพอมาเทียบเรื่องสรรพคุณ ข้อดีทั้งหลายที่เล่าให้ฟังไปแล้ว เรื่องความที่เค้ารักษามือเรา ไม่ต้องหาแฮนด์ครีมแพงๆมารักษาที่โดนแอลกฮอลล์กัด ยังไม่นับเรื่องจำนวนครั้งในการใช้งาน

เทียบทุกอย่างรวมๆแล้ว ก็ถือว่าคุ้ม

เพราะเอาจริงๆ ถ้ามือเรามันเยินไปแล้ว พวกค่ารักษา ค่าแฮนด์ครีม ค่าต่างๆก็น่าจะแพงกว่าค่าสเปรย์อยู่

ทีนี้ เจ้าสเปรย์สองตัวนี้ จาก Neil's Yard Remedies เนี่ย สำหรับใครที่สนใจอยากไปหาซื้อมาใช้บ้าง สามารถหาซื้อได้ทั้งช่องทาง Online และก็ Offline เลยนะคะ

ช่องทางออนไลน์

https://nealsyardremedies.co.th/

Official Store: Lazada และ Shopee

ช่องทาง Offline

Siam Paragon ชั้น M Beauty Hall

Emporium ชั้น M Beauty Hall

เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1

No comments

รีวิว Review It’s Okay to Not Be Okay Episode 1

by Fasai - กรกฎาคม 01, 2563

“มันคือเรื่องของสองคนที่คนหนึ่งเป็นคนไม่เชื่อในความรัก

ส่วนอีกคนก็มีปมต่อต้านสังคมและไม่รู้จักความรัก”

นั่นคือสรุปสั้นๆที่ใสได้จากการอ่านคำโปรยของเรื่อง It’s Okay to Not Be Okay หรือชื่อไทยว่า เรื่องหัวใจไม่ไหวอย่าฝืน

ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนกันไหม ที่ปกติดูแต่ซีรีย์สาย ฝ. นานๆทีถึงจะดูสายเกา หรือซีรีย์ฝั่งเกาหลีกับเค้าบ้าง คือสำหรับใสถ้าจะดูสายเกา พล็อตต้องมีอะไรน่าสนใจมาก หรือแหวกๆ หรือมีคล้ายๆกับตัวเองจนแบบอยากดูเพื่อหาคำตอบอะไรบางอย่าง

และเรื่องนี้เนี่ยมีครบที่ใสกำลังมองหา

เอาล่ะ เป็นอันว่าคุณสมบัติครบ มาเปิด EP แรกดูดีกว่า

ซีนแรกเปิดมา ใสแบบอ้าปากหวอ คือมันเป็นการ์ตูน animation หน้าตาน่ารัก ออกแนวการ์ตูนสาย ฝ. หน่อยๆ พร้อมกับนิทานที่ใสว่ามันเศร้านะ แล้วก็ตอนจบของนิทานก็เป็นการเปิดตัวนางเอกที่ใสรู้สึกว่านางเศร้ามาก เอาจริงๆมันคือนิทานเปรียบเทียบเรื่องตัวนางเอกเองนี่แหละ

ซึ่งตอนจบของนิทานก็มาพร้อมๆกับการได้รู้ชื่ออีพี ว่าอ้อ ชื่อว่า เด็กชายผู้เติบโตจากฝันร้าย

แล้วก็ตามมาด้วยการเปิดตัวพระเอกกับพี่ชาย

เป็นการเปิดตัวที่กระชับ คือทำให้เรารู้เลยว่าพี่ชายน่าจะเป็นออทิสติก ซึ่งคนเล่นเค้าแสดงได้ออกมากำลังดี ดูเหมือนคนเป็นออทิสติกจริงๆ จากที่ใสเคยเห็นมาจากคนรู้จักในโรงเรียน ไม่มากไป ไม่น้อยไป แล้วก็ให้แง่มุมใน “ความเป็นคน” ของคนเป็นออทิสติกด้วย ใสว่าตรงนี้ สำคัญมาก ดีมาก เป็นอะไรที่ใสว่าใสไม่เคยเห็นมาก่อน และรู้สึกประทับใจ

ส่วนพระเอกน่ะเหรอ ผู้ชายอะไรหน้าตาดี ดูนิ่งๆ แต่พอคุยกับพี่ชายที ออกมาแบบละมุนมาก

แล้วก็สลับไปหานางเอก นางนั่งกินข้าวสวยๆ นางเป็นนักเขียนดัง นางมีความคิด ความแปลก แบบร้ายๆของนาง

แล้วก็กลับมาที่พระเอกอีก โชว์หุ่นก่อนด้วย นี่กะขายสาวๆสินะ แล้วก็ค่อยมาโชว์ว่านางเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเวช

แล้วก็จะเดินเรื่องสลับไปมาระหว่างนางเอกกับพระเอก แล้วก็คนใกล้ชิดของพระนาง

ต่อด้วยปมว่านางเอกจะมาโรงพยาบาลที่พระเอกทำงานอยู่ แล้วพี่ชายพระเอกก็ดูจะเป็นแฟนคลับแม่นางเอกของเราซะด้วย

สรุป คือ อีพีแรก ใสว่ามันคือการแนะนำตัวละคร แนะนำให้คนดูอย่างเรารู้จักกับตัวละครหลัก

ไม่นานเกินรอ นางเอกเราก็เจอพระเอก ซึ่งซีนนี้ไม่ขอสปอยล์ แต่บอกได้คำเดียวว่า อร๊ายยย มันใช่ มันดีมาก ถูกใจมาก

มีความที่สมกับเป็นนาง แล้วก็จะมีแบบปมหลักของอีพีที่เกี่ยวกับพระเอกและนางจนมาถึงท้ายอีพีที่ก็ขมวดปมของเรื่องเล่าตอนต้นอีพีไปอีก เป็นการพูดถึงความแววตาของนางเอกทำให้พระเอกนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งในความทรงจำ แล้วก็โชว์ความทรงจำของพระเอก ซึ่งเป็นการเฉลยบางปมแล้วก็ผูกปมใหม่เพิ่มไปในขณะเดียวกัน

บอกก่อนว่าขอข้ามเรื่อง พระนางหน้าตาดี เพลงเพราะ ภาพสวยสีสวยละมุนไป

สำหรับอีพีแรกนี่บอกเลยว่าอึ้งมาก แต่ชอบนะ เป็นการอึ้งเพราะรู้สึกแบบประทับใจกับรายละเอียดที่ถูกส่งออกมาในช่วงต้นเรื่องเลย ไปยันจบอีพี

พอดูอีพีแรกจบแล้ว ถ้าถามว่ารู้สึกตรงกับคำโปรยที่อ่านๆไหม ใสบอกได้เลยว่าไม่เลยสักนิด

เพราะว่ามันดูมีอะไรมากกว่านั้น มันดูลึกลับซับซ้อนแล้วก็น่าสนใจกว่ามาก มากๆ แบบ ก. ไก่ล้านตัวเลย

ที่สำคัญ เดินเรื่องเร็ว กระชับ แต่ไม่ตกหล่น รายละเอียดครบ กลายเป็นคนดูต้องเอ๊ะ ฉันตกอะไรไปไหม

แล้วก็เรื่องพระนางพูดจาชัดเจน ตรงทั้งคู่ ไม่มีการกระมิดกระเมี้ยนอ้อมค้อมน่ารำคาญแบบเรื่องอื่น มันทำให้อยากรู้และก็เดาไม่ออกว่าจะมีอะไรออกมาในตอนต่อๆไป

ใสชอบการสื่อเรื่อง ชอบที่มีการแทรกทริค การทำให้ใจเย็นแบบ หายใจเข้าหายใจออกลึกๆสามครั้งเรียกสติ แล้วก็มีวิธีการพูดนุ่มนวลของพระเอกที่คนขาดทักษะการพูดตรงแต่ซอฟท์อย่างใสได้เรียนรู้ไปในตัว ในขณะเดียวกันมันก็ท่าทางนางพญา ใสว่าจากอีพีแรกด้วยความที่สองคนนี้มีความสุดไปคนละด้าน ทำให้มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ใสเชื่อว่าทุกคนสามารถเอามาใส่ในตัวเอง แล้วก็อาจจะมีบางอย่างที่รู้สึกว่าอื้ม เข้าใจเพื่อนแปลกๆของเรามากขึ้น

คือบางที คนเราไม่ได้บ้าหรอกนะ ก็เราแค่เป็นแบบนี้อ่ะ เกิดมาเป็นแบบนี้เลย แต่ข้างใน ในตรรกะในใจเราก็แบบมันก็ไม่ได้เลวร้ายนะ ไม่ใช่ว่าเออ ถูกขนานนามว่าเป็นปีศาจ แล้วเราต้องร้ายชั่วร้ายไม่มีเหตุผล อันนั้นไม่ใช่ ใสเลยชอบตรงส่วนที่เขาแทรกมุมนี้เข้ามาในตัวนางเอกได้แบบพอดีด้วยความพอดีสุดๆ

ชอบกับการที่พระเอกดูเข้าใจ แต่ไม่เฉลยหมดในตอนแรกที่เจอนางเอกหรือคุยกับเพื่อน แต่แอบมาเฉลยตอนท้ายอีพี ในส่วนความทรงจำของตัวเอง

แล้วก็ชอบความที่เป็นเรื่องราวที่โอเคน่าจะเป็นเรื่องความรัก แต่ดูไม่เลี่ยน ไม่เพ้อชนิดหาสาระไม่ได้ เป็นการดูปุ๊บแล้วโอเค เรื่องนี้มีประโยชน์แน่ๆ แล้วเราได้มันอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นยันจบอีพีแรก เราได้ความเพลิน เราได้แง่คิด รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่แนะนำเพื่อนโดยเฉพาะที่ไม่ใช่สายเกาหรือเพื่อนผู้ชายแล้วจะไม่เขิน คือสำหรับคนที่ไม่ใช่สายเกาอย่างใส พอได้ยินคำว่าซีรีย์เกาหลี มันจะมีภาพจำของความหวานเลี่ยน น้ำตาท่วม แล้วก็ดูมุ้งมิ้งหน่อยๆ เซ็กซี่นิดๆอยู่ในหัว

แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่ไง และนั่นทำให้มันพิเศษ

ที่ชอบที่สุด และคิดว่าน่าจะสรุปความเป็นอีพีนี้แบบสั้นให้ทุกคนได้ก็คือ ใสชอบการแนะนำตัวละคร ที่เป็นการแนะนำให้รู้จัก แต่แนะนำไม่หมด ซึ่งมันเหมือนกับการที่เรารู้จักคนๆหนึ่ง เราไม่รู้จักได้ทุกด้านทุกมุมว่าเขาเป็นคนยังไงคิดยังไง โดยเฉพาะตอนเจอกันใหม่ๆ เพราะจะว่าไป ขนาดตัวเราเอง เรายังไม่รู้จักตัวเองขนาดนั้นเลย

ดังนั้น สำหรับใส อีพีนี้ คือ การแนะนำให้รู้จักกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันเป็นคนแบบนี้ล่ะ ในมุมหนึ่งด้านหนึ่งภายในเวลาที่พอจะเอื้ออำนวย

แล้วอีพีหน้า เรามารู้จักกันเพิ่มนะ

เป็นอะไรที่ทำให้คนดูรู้สึกแบบ รออะไรล่ะ ดูต่อสิคะ