สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการรีวิวและการทำคลิปไปนานมว๊าากก 

กลับมารอบนี้ มาใน Theme ของ My Little Cruelty-Free World ค่ะ

EP นี้ มารีวิวสเปรย์แอลกฮอลล์ระดับพรีเมียม

จากแบรนด์ Neil's Yard Remedies ค่ะ 

เป็นแบรนด์จากอังกฤษ >.<

เหมือนเดิม ใครใคร่ดูคลิป ดูคลิปนะเจ้าคะ คลิกเบาๆที่คลิปด้านล่างโลดไปเล้ยยย

ส่วนใครชอบอ่าน เลื่อนลงไปอีกนิดก็มาอ่านยาวๆไป ยาวนิดนึง ดูคลิปก็ได้

มาดูหน้าดูตาของเจ้าสเปรย์ที่ว่านี่กันก่อน พามาอวดโฉม 2 รุ่นด้วยกัน 

คือ Natural Defense Hand Spray กับ Organic Defense Hand Spray

รู้จักหน้ารู้จักตากันแล้ว ใสก็มี 

5 เหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้เจ้า Hand Spray แอลกฮอลล์ 2 ตัวนี้ จาก Neil's Yard Remedies ค่ะ

เริ่ม!!!

1. แอลกฮอลล์เข้มข้น 70% 

อย่างที่หลายๆคนน่าจะทราบกันว่า แอลกฮอลล์ที่จะฆ่าเชื้อโควิดได้เนี่ยต้อง 70% ขึ้นไป 

ซึ่งเจ้าสองตัวนี้ก็เข้าข่าย แล้วก็ยังผ่านการรับรองทางการแพทย์ว่าฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.9% 

แอลกฮอลล์ที่ใช้ก็เป็นแบบอย่างดี คุณภาพสูง 

2. อ่อนโยนมาก ไม่ระคายเคือง 

ไม่กัดมือ ไม่แสบ ไม่แห้ง ในขณะที่ไม่มัน ไม่เหนียว ไม่เหนอะหนะ ใช้ซ้ำได้บ่อย

ไม่รู้สึกระคายเคืองใดๆ รู้สึกนุ่มหน่อยๆด้วย แล้วก็คือพอทิ้งไว้ไม่ถูมือเลยใช่ปะ เค้าก็เป็นน้ำใสๆในอุ้งมือแบบนี้ พอถูทำความสะอาดก็รู้สึกว่า ก็เร็ว ไม่เลอะเทอะ 

คือบอกก่อนว่าที่บอกว่าไม่ระคายเคืองเนี่ย คือลองใช้แบบ ฉีดรัวๆ แล้วก็ถูติดๆกันประมาณสิบกว่ารอบอ่ะ มันไม่ระคายเคืองเลยอ่ะ 

คือจะใช้ซ้ำได้บ่อยแค่ไหนก็ได้ 

เท่าที่เราต้องการ คือมีความจำเป็นที่ต้องหยิบนู่นหยิบนี่ แล้วต้องใช้ก็ใช้อีก ซ้ำๆย้ำๆได้เลย

ใสก็เอ๊ะๆ แบบว่าได้เบอร์นี้เลยเหรอ 

อ่อนโยนที่ว่า เค้าโฆษณาว่าสามารถใช้ได้กับเด็กแล้วก็สตรีมีครรภ์ก็ได้

3. กลิ่น

กลิ่นนี่เป็นอะไรที่ชอบมาก บอกเลยว่ากลิ่นดีมาก 

มีความเป็น Unisex ด้วยใช้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วก็ใช้ไดหลายๆวัยด้วย 

กลิ่นเจ้าสองตัวนี้จะคล้ายๆกัน เป็นกลิ่นที่ผสมผสานระหว่างพืชพรรณสมุนไพรหลายตัวที่ค่อนข้างยากที่จะแยกว่าอะไรเป็นอะไร กลิ่นที่โดดที่สุดที่ใสรู้สึกนะ คือคล้ายๆตะไคร้ผสมซินนามอน แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว 

กลิ่นให้ความรู้สึกเย็น สบาย ไม่บาดจมูก ไม่ฉุน ไม่ให้ความรู้สึกที่ว่าแก่อะ

ส่วนตัวใสรู้สึกตัว Natural defense hand spray ตัวผอมสูง เนี่ยเค้าจะกลิ่นออกอ่อนกว่าหน่อยนึง ส่วนตัว organic defense hand spray กลิ่นจะเข้มแล้วก็มีความดุดันกว่า

ซึ่งเรื่องกลิ่น สำหรับหลายคนใสว่าเป็นเรื่องใหญ่ เอาให้ชัวร์คือต้องลองค่ะ 

4. ขวดสีน้ำเงิน Iconic Blue bottle

ขวดสีน้ำเงินที่ถ้าใครเป็นแฟนของ Neil's Yard Remedies จะเห็นว่าแบรนด์เนี้ยเค้าใช้ขวดสีน้ำเงินแบบเดียวกันไปกับผลิตภัณฑ์ทุกตัวเลย

ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว หรือว่าเป็นแค่สัญลักษณ์ของแบรนด์

แต่ว่าเจ้าตัวขวดน้ำเงินเนี่ย

มีคุณสมบัติช่วยกันรังสียูวี แล้วก็ช่วยดูแลป้องกันของในขวดไม่ให้เสียง่าย 

เจ้าขวดเนี้ยในวิดิโอของแบรนด์ pure preservatives คือสารกันเสียที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติอะไรประมาณนั้น 

ทำให้ของข้างในไม่เสีย จนเราสามารถใช้ได้ทัน จบปัญหาประเภทที่ว่าซื้อมาไม่ทันไร เสียแล้วอ่ะ

นอกจากนี้นะคะ เจ้าตัวขวดนี้ recycle ได้ 100% ด้วยนะคะ

5.  เป็น #CrueltyFree #Vegan #Organic แล้วยังรักษ์โลกมาก

สำหรับใสค่อนข้างสำคัญมากพอสมควรเลยว่าผลิตภัณฑ์ที่ใสใช้เนี่ยจะต้องเป็น Cruelty Free ไม่ทดลองกับสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ใช้ส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ เป็นออร์แกนิคอะไรแบบนี้ ซึ่งแบรนด์นี้มาครบจัดเต็ม มี Cer พร้อมรางวัลรับรองมากมาย แล้วก็รักษ์โลกมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการเลือกใช้กระดาษรีไซเคิลเพื่อลดการทำลายปาก มากมายหลายสิ่งที่ใสปลาบปลื้มที่น่าสนับสนุนมาก

+++

พูดถึงข้อดีกันไปเยอะแล้ว มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง เชื่อไหม ใสใช้เวลาประมาณเกือบ 3 สัปดาห์ ในการพยามควานหาข้อเสียของนาง

แล้วได้อะไรไหม  ตอบเลยว่าไม่ได้ หาไม่เจอ

คราวนี้มาดูค่าตัวของนางทั้งสองกันบ้าง

ราคาของเจ้าสองตัวนี้นะคะ สำหรับเจ้า  Natural Defense Hand Spray ขนาด 30 ml อยู่ที่ 450 บาท

กับ Organic Defense Hand Spray ขนาด 50 ml อยู่ที่ 650 บาท

ซึ่งก็ค่อนข้างจะแรงกว่าสเปรย์แอลกฮอล์ยื่ห้ออื่นๆ แต่ว่าพอมาเทียบเรื่องสรรพคุณ ข้อดีทั้งหลายที่เล่าให้ฟังไปแล้ว เรื่องความที่เค้ารักษามือเรา ไม่ต้องหาแฮนด์ครีมแพงๆมารักษาที่โดนแอลกฮอลล์กัด ยังไม่นับเรื่องจำนวนครั้งในการใช้งาน

เทียบทุกอย่างรวมๆแล้ว ก็ถือว่าคุ้ม

เพราะเอาจริงๆ ถ้ามือเรามันเยินไปแล้ว พวกค่ารักษา ค่าแฮนด์ครีม ค่าต่างๆก็น่าจะแพงกว่าค่าสเปรย์อยู่

ทีนี้ เจ้าสเปรย์สองตัวนี้ จาก Neil's Yard Remedies เนี่ย สำหรับใครที่สนใจอยากไปหาซื้อมาใช้บ้าง  สามารถหาซื้อได้ทั้งช่องทาง Online และก็ Offline เลยนะคะ

ช่องทางออนไลน์

https://nealsyardremedies.co.th/

Official Store: Lazada และ Shopee

ช่องทาง Offline

Siam Paragon ชั้น M Beauty Hall

Emporium ชั้น M Beauty Hall

เซ็นทรัลลาดพร้าว  ชั้น 1

Thai people familiar with Nivea. I remembered that I | 

Nivea เป็นแบรนด์ดังที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน

ใสจำได้ว่าใช้นีเวียตลับน้ำเงินทานู่นทานี่มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กเล็กๆ บางคนก็ใช้ทาส้นเท้าแตก ทาจุดด้านสารพัดประโยชน์

นีเวียเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องครีม โดยที่หลังๆมานี่ก็มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น

พร้อมกับกิจกรรมต่างๆมากมาย ตอนนี้ที่ฮิตมาก็เรื่องหน้าสดนี่แหละ 555

ที่สำคัญ Nivea ไม่มีการทดลองในสัตว์

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ Nivea ในการทดลองที่เรียกว่า "in vitro"

ซึ่งก็คือการทดลองในหลอดทดลอง ไม่ใช่การทดลองกับสัตว์หรือสิ่งมีชีวิต

โดยการทดลองก็จะมีการร่วมมือกับเหล่าสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญ

อีกหนึ่งการการันตีความใส่ใจในการเป็น Cruelty-Free brand ของ Nivea นั้นก็คือ

การมีบทบาทร่วมกับองค์กรและสมาคมที่สนับสนุนเกี่ยวกับ Cruelty-Free ในยุโรป หลากหลายองค์กร

อาทิเช่น

SCAAT (the Association's Steering Committee on Alternatives to Animal Testing),

European Centre for the Validation of Alternative Methods (ECVAM),

IVTIP (the In Vitro Testing Industrial Platform),

ESTIV (the European Society of Toxicology In Vitro)

และ EPAA (European Partnership for Alternative Approaches to Animal Testing)

นอกจากทดลองในหลอดทดลองจนได้ผลอันเป็นที่น่าพอใจสุดๆแล้ว ทางนีเวียก็จะทดสอบผลิตภัณฑ์กับอาสาสมัครที่เป็นมนุษย์อีกทีด้วยค่ะ

Reference: http://www.nivea.co.uk/about-us/beiersdorf/animal-testing-uk

2 months ago, I bought many cosmetics in Sahapat fair in Bangkok since their prices are pretty interesting. Then, I came back home with guilty since I did not know the cosmetics were cruelty-free or not. Therefore, I have the facebook message to ICC international page. ICC international is owned many famous cosmetics brands such as BSC, sheene' and ARTY professional.  You can find more brands from the following link: http://www.icc.co.th/icc/?q=bybrand

2 เดือนที่แล้ว ซื้อเครื่องสำอางมากมายมาจากงานสหพัฒน์ด้วยความลืมตัวและขาดสติ เนื่องจากเครื่องสำอางที่ละลานตาและราคาที่ถูกมาก กลับมาก็นอยด์เลยว่าที่ซื้อมานี่ cruelty-free หรือเปล่านะ สุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหวเลยส่งเมสเสจไปถามได้ความว่าดังนี้ค่ะ

Here are what the page wrote me back:

The answer is all brands of ICC International have no animal testing. But the company have using the survey to the specfic market instead.

Just see the answers and I feel so much better.

เห็นคำตอบแล้วก็สบายใจมากๆค่ะ