My results from this recipe:

1. I can make only 9 cupcakes. (But I didn't using baking soda, vanilla extract and vinegar)

2. I had to bake about 20-25 minutes!!

สูตรคัพเค้กเจตัวนี้เอามาจาก Peta ค่ะ จากสูตรเค้าว่าได้ 24 ชิ้นค่ะ แต่ทำแล้วได้แค่ 9 เองอ่ะ ไม่เต็มถ้วยดีด้วย ไม่รู้ว่าเพราะทำไม่เหมือนสูตรต้นแบบหรือเปล่า มีของไม่ครบค่ะ

ส่วนผสม

ส่วนของแห้ง

1. น้ำตาล 1/2 ถ้วย

2. แป้งเค้ก 1 3/4 ถ้วย

3. ผงฟู 2 ช้อนชา

4. เกลือ 1 ช้อนชา

ส่วนของเปียก

1. น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย

2. นมถั่วเหลืองหวานน้อย 1 ถ้วย

วิธีทำ

1. เริ่มจากอุ่นเตาอบเตรียมไว้ 350 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 180 องศาเซลเซียส แล้วก็เตรียมพิมพ์คัพเค้ก

2. อ่างผสมใบใหญ่ ผสมของแห้งทั้งหมดให้เข้ากัน อันได้แก่ น้ำตาลทราย 1 ถ้วย แป้งอเนกประสงค์ 1 3/4 ถ้วย ผงฟู เกลือ และเบกกิ้งโซดา อย่างละ 1 ช้อนชา ใสไม่มีเบกกิ้งโซดา เลยใส่ผงฟูไป 2 ช้อนชา แล้วก็ใช้แป้งเค้กแทนแป้งอเนกประสงค์อีกต่างหาก ลดน้ำตาลครึ่งหนึ่งเพราะนมถ้่วเหลืองที่จะใส่ในของเปียกมีน้ำตาล

3. อ่างผสมใบกลาง ให้ผสมของเปียก น้ำมันครึ่งถ้วย นมถั่วเหลืองแบบไม่หวาน(แบบไม่ใส่น้ำตาล) 1 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ และวานิลลา 2 ช้อนโต๊ะ อันนี้ใช้นมถั่วเหลืองแบบหวานน้อยค่ะ แล้วก็ไม่ใส่น้ำส้มสายชู กับวานิลลา

4. ค่อยๆผสมของเปียกลงไปในของแห้ง ผสมจนเข้ากันดี แล้วค่อยเทใส่พิมพ์ ใส่ให้อยู่ประมาณ 2/3 ของพิมพ์

5. จากสูตรให้นำเข้าอบประมาณ 15-18 นาที แต่มันไม่สุกอ่ะ เอาไม้จิ้มฟันจิ้มแล้วเหลวๆมีเนื้อเค้กติดออกมาเต็มเลย อบต่อไปหลายรอบ เบ็ดเสร็จเวลาอยู่ที่ประมาณ 20-25 นาทีค่ะ ถึงจะสุกหมด ไม่รู้ว่าเพราะว่าถ้วยพิมพ์เค้กคนละแบบหรือเปล่า

6. เสร็จแล้วทิ้งให้เย็น แล้วก็บีบครีมแต่งหน้าได้ค่ะ ไม่ได้ใช้ครีมแต่งหน้าของ peta ค่ะเป็นสูตร butter cream ธรรมดาของ BBC แล้วก็ตีมือด้วย >.<

โดยรวมสูตรนี้ทำง่ายดีค่ะ เนื้อเค้กนุ่มแน่น แต่ว่าก็ยังหวานไป ตามคำร่ำลือว่าสูตรจากต่างประเทศแถบอเมริกามักจะหวานจัด ถึงแม้จะลดน้ำตาลลงไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่บวกกับน้ำตาลในนมด้วยก็คงใกล้เคียงกับสูตรอยู่ดี โดยส่วนตัวชอบหวานน้อย คาดว่าคราวหน้าจะไม่เติมน้ำตาล หรือไม่ก็ต้องลดประมาณ 1/4 ของสูตร

2 months ago, I bought many cosmetics in Sahapat fair in Bangkok since their prices are pretty interesting. Then, I came back home with guilty since I did not know the cosmetics were cruelty-free or not. Therefore, I have the facebook message to ICC international page. ICC international is owned many famous cosmetics brands such as BSC, sheene' and ARTY professional.  You can find more brands from the following link: http://www.icc.co.th/icc/?q=bybrand

2 เดือนที่แล้ว ซื้อเครื่องสำอางมากมายมาจากงานสหพัฒน์ด้วยความลืมตัวและขาดสติ เนื่องจากเครื่องสำอางที่ละลานตาและราคาที่ถูกมาก กลับมาก็นอยด์เลยว่าที่ซื้อมานี่ cruelty-free หรือเปล่านะ สุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหวเลยส่งเมสเสจไปถามได้ความว่าดังนี้ค่ะ

Here are what the page wrote me back:

The answer is all brands of ICC International have no animal testing. But the company have using the survey to the specfic market instead.

Just see the answers and I feel so much better.

เห็นคำตอบแล้วก็สบายใจมากๆค่ะ